ผมสงสัยอย่างนึงเกี่ยวกับสิทธิในการสมน้ำหน้า
อย่างเช่น
สมมุติว่า ณ ตอนนี้เศรษฐกิจปัจจุบันซึ่งมันก็แย่อยู่แล้วแต่ผมคาดการณ์ว่ามันสามารถจะหนักได้มากกว่านี้อีก เพียงแต่ว่าเรายังไม่รู้ว่าปัจจัยอะไรที่จะทำให้มันเกิดขึ้น ก็เลยช่วยเตือนได้แค่ว่าต้องกลับไปทำเกษตรอยู่กับบ้าน ซึ่งผมก็ได้ทราบอยู่แล้ว แต่มองว่ามันต้องมากกว่านั้นอีก ถึงได้ย้ำให้น้ำหนักมันมากขึ้นไปอีก
เพราะในภาพกลยุทธ์ความน่าจะเป็นภาพหนึ่งที่ผมมองไว้ ถ้าค่าเงินบาท หลุดไปถึง 53 บาทในลักษณะค่อยๆขึ้นไป โดยอาจมีตบพักลงมาตรง 36 บาท แต่กลับขึ้นต่อไปจนถึง 53 บาทได้ เราอาจจะต้องอยู่กับมันไปเป็นเวลานานมาก ซึ่งเป็นที่สถานการณ์ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน
เน้นคำว่า “เป็นสถานการณ์ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน”
แต่คนกลุ่มนึงกลับเอาแต่ตะแบงว่ารัฐต้องโน่น ต้องนี่ต้องนั่น
คุณจะไปรู้ได้ยังไงว่ารัฐจะยังอยู่รอดได้ไม่ล้มละหลายหรือเจอปัญหาใหญ่อะไรบางอย่าง
แถมพอมีคนช่วยเตือนก็กลับไปด่าหาว่าเขาดูถูกแค่เพียงเพราะว่าเขาเตือนจากการคาดการณ์โดยความรู้จากกฎตามธรรมชาติของโลกใบนี้ที่มีรูปแบบเฉพาะที่ทำให้สามารถคาดการณ์อนาคตล่วงหน้าได้โดยไม่จำเป็นต้องดูปัจจัยที่จะทำให้มันเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นชุดความรู้ที่คนกลุ่มนี้ไม่ชอบ เพราะเขาไม่ชอบที่มีอะไรมาคุม หรือตีกรอบเขา หรืออยู่ใต้กรอบอะไรอยู่ คนกลุ่มนี้ก็เลยไม่พยายามเรียนรู้ความรู้ประเภทนี้และพยายามจะผลักตัวเองออกจากความรู้ประเภทนี้อยู่ตลอด
คนที่เขาศึกษาความรู้ประเภทนี้มาอย่างเฉพาะเจาะจงเขาก็เลยเตือนเท่าที่เตือนได้ว่าที่ว่าอยู่ด้วยการเกษตรให้ได้นั้นต้องปักลงไปเข้มและหนักแน่นกว่านี้อีกก็เท่านั้นเอง
เพราะเราไม่รู้เลยว่ารัฐจะไปรอดหรือไม่ในสถานการณ์ที่คนไทยเราไม่เคยเจอมาก่อนอย่างน้อยก็ในรอบ 40-50 ปีมานี้
ผมจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมคนที่พยายามช่วยเตือนให้คนกลุ่มนั้นระวังถึงถูกกดให้เท่ากับเขา ถูกกล่าวหาว่าไปดูถูกเขา ทั้งๆที่คนช่วย เขาเป็นฝ่ายพยายามช่วยเหลือ ช่วยเตือนด้วยซ้ำ
ถ้าพอถึงเวลานั้นแล้วสถานการณ์มันไม่เลวร้ายอย่างที่คาดมันก็ดี
แต่ถ้ามันเลวร้ายตามที่คาดไว้เป๊ะ ทำไมคนที่พยายามจะช่วยตอนนั้นเขาจะสมน้ำหน้าไม่ได้ ในเมื่อเขาพยายามจะช่วยแล้วแต่คนกลุ่มนั้นกลับด่าเขา กดเขา แถมยังหาว่าเขาไปดูถูกด้วยซ้ำทั้งๆทึ่เขาเป็นฝ่ายพยายามช่วยเตือนแท้ๆ
และจริงๆแล้วเขาก็สามารถจะไม่ต้องช่วยก็ได้ เพราะถ้าเขาคาดการณ์อนาคตได้แม่นขนาดนั้นเขาก็สามารถจะมองหาเส้นทางการหมุนเวียนของเงินได้อยู่แล้ว พอดขารู้ว่าเงินจะไปทางไหน เขาก็แค่ขยับไปหากินในเส้นทางนั้นก็เท่านั้นเอง
และหนึ่งในทางออกที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบันนี้ก็คือตลาดเสรี
ก็จะย้อนกลับมาว่าทำไมผมถึงสนใจการเรียกร้องตลาดเสรี ทุนนิยมเสรี อีก เพราะมันเป็นลู่ทางในการเชื่อมต่อกับตลาดใหญ่ระดับโลกโดยที่ไม่มีอะไรขวางกั้น ทำให้ชาวบ้านสามารถหาช่องทางสร้างรายได้ให้ตัวเองได้โดยที่ไม่ถูกรัฐปิดกั้น และเป็นส่วนนึงที่นำไปสู่แนวคิดของการเป็นพลเมืองโลก
สรุปก็ในเมื่อคนกลุ่มที่ไปด่าคนที่เขาพยายามช่วยเอาไว้เอง ทำไมพอถึงเวลาเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง คนที่เขาพยายามช่วยเขาจะสมน้ำคนกลุ่มนี้ไม่ได้หนอ?